เครื่องชิลเลอร์ (chiller) เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรม ทั้งในงานการผลิต การรักษาอุณหภูมิ และการควบคุมความเย็น อย่างไรก็ตาม การใช้งานเครื่องชิลเลอร์ในระยะยาวอาจเกิดปัญหาบางประการ ซึ่งถ้าไม่จัดการแก้ไขทันที อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายที่มากขึ้นและกระทบต่อกระบวนการผลิตหรือการทำงานโดยรวม ในบทความนี้เราจะพูดถึงปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องชิลเลอร์และวิธีแก้ไขที่สามารถทำได้
ปัญหานี้มักเกิดจากระบบทำความเย็นไม่ทำงานตามที่ควร เช่น ตัวเครื่องอาจไม่สามารถลดอุณหภูมิได้ตามเป้าหมาย โดยมีสาเหตุมาจาก การระบายความร้อนไม่เพียงพอ มีสิ่งกีดขวางในระบบการไหลของน้ำเย็นหรือสารหล่อเย็น คอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ
- ตรวจสอบระบบระบายความร้อนว่ามีการอุดตันหรือไม่
- ทำความสะอาดหรือล้างไส้กรองเพื่อให้ระบบทำงานได้ราบรื่น
- ตรวจสอบคอมเพรสเซอร์ว่าทำงานเต็มประสิทธิภาพหรือไม่ หากไม่สามารถซ่อมได้ อาจต้องเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่
เสียงดังที่เกิดขึ้นจากเครื่องชิลเลอร์ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาที่เกิดจากการทำงานของชิ้นส่วนภายใน ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก ลูกปืนของคอมเพรสเซอร์หรือมอเตอร์เริ่มสึกหรอ ใบพัดหรือพัดลมทำงานไม่สมดุล การอุดตันของระบบทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไป
- ตรวจสอบลูกปืนและมอเตอร์ หากพบว่ามีการสึกหรอ ควรทำการซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
- ตรวจสอบใบพัดหรือพัดลมว่าทำงานได้อย่างสมดุลหรือไม่ และปรับแก้ไขตามความเหมาะสม
- ทำความสะอาดระบบเพื่อให้เครื่องไม่ทำงานหนักจนเกินไป
สาเหตุที่เป็นไปได้อาจมาจาก ระบบไฟฟ้าขัดข้อง การตั้งค่าอุณหภูมิหรือแรงดันผิดพลาด หรือมีปัญหากับเซนเซอร์หรือระบบควบคุมอัตโนมัติ
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าว่ามีการขัดข้องหรือไม่ เช่น ฟิวส์ขาดหรือวงจรไฟฟ้าหลุด
- ตรวจสอบการตั้งค่าอุณหภูมิและแรงดันว่าถูกต้องตามที่กำหนดหรือไม่
- เช็คเซนเซอร์และระบบควบคุมอัตโนมัติ หากพบปัญหาอาจต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซม
ปัญหาการรั่วไหลในระบบน้ำหล่อเย็นหรือสารทำความเย็นเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและอาจทำให้เครื่องชิลเลอร์ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้ ท่อหรือวาล์วเกิดการแตกหรือเสียหาย การติดตั้งอุปกรณ์ไม่แน่นหนาหรือมีการเสื่อมสภาพ
- ตรวจสอบท่อและวาล์วต่าง ๆ เพื่อหาจุดรั่วไหล
- ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียหาย
- ตรวจสอบระบบการติดตั้งให้แน่นหนาเพื่อป้องกันการรั่วไหลในอนาคต
บางครั้งเครื่องชิลเลอร์อาจใช้พลังงานมากเกินไปจนทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติหรือการบำรุงรักษาที่ไม่เหมาะสม โดยสาเหตุอาจมาจาก ตัวเครื่องทำงานหนักเกินไปเนื่องจากการอุดตันของระบบ อุปกรณ์ภายในเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้เครื่องต้องใช้พลังงานมากขึ้นน
- ทำความสะอาดระบบระบายความร้อนและส่วนประกอบต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งาน
- ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องชิลเลอร์ อย่างสม่ำเสมอ
- อัพเกรดอุปกรณ์หรือใช้เทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน
การดูแลรักษาเครื่องชิลเลอร์ อย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องและรักษาประสิทธิภาพในการทำความเย็นให้อยู่ในระดับที่ดีเสมอ การดูแลรักษาเครื่องชิลเลอร์ไม่เพียงแค่ช่วยลดการเสียหายที่อาจเกิดขึ้น แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานเครื่องด้วย
1. ตรวจสอบระดับน้ำยาทำความเย็น ควรตรวจสอบระดับน้ำยาทำความเย็นเป็นประจำ หากพบว่าระดับลดลง อาจเกิดจากการรั่วซึม ควรรีบแก้ไขโดยเร็ว
2. ทำความสะอาดคอยล์ ทั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการอุดตันของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อน
3. ตรวจสอบและทำความสะอาดตัวกรอง ตัวกรองอากาศและตัวกรองน้ำควรทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในระบบ
4. ตรวจสอบความดันในระบบ ควรตรวจสอบความดันของระบบทำความเย็นให้เป็นไปตามค่าที่กำหนดไว้
5. ตรวจสอบการทำงานของปั๊มน้ำ ปั๊มน้ำมีหน้าที่หมุนเวียนน้ำยาทำความเย็น ควรตรวจสอบว่าปั๊มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
6. ตรวจสอบสายพานและรอก สายพานและรอกที่ใช้ขับเคลื่อนคอมเพรสเซอร์ ควรตรวจสอบความตึง และสภาพการสึกหรอ
7. ตรวจสอบมอเตอร์และคอมเพรสเซอร์ ตรวจสอบเสียงดังผิดปกติ การสั่นสะเทือน และอุณหภูมิของมอเตอร์และคอมเพรสเซอร์
8. ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ตรวจสอบสายไฟ, เบรกเกอร์, และอุปกรณ์ควบคุมอื่นๆ ให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์
9. บันทึกข้อมูลการบำรุงรักษา ควรบันทึกข้อมูลการบำรุงรักษา เช่น วันที่ทำการบำรุงรักษา อะไหล่ที่เปลี่ยนใหม่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการบำรุงรักษาครั้งต่อไป
-----------------------------
อ่านเพิ่มเติม
สาเหตุหลักทำให้ประสิทธิภาพของระบบชิลเลอร์ลดลง
อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดความเย็นมีอะไรบ้าง